การประเมินการอาจารย์ผู้สอนวิชานี้

การประเมินการอาจารย์ผู้สอนวิชานี้

1.ความรู้ที่ได้จากการเรียนวิชานี้

   ตอบ  ได้รู้เรื่องต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ในวิชาชีพครูทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่จะบรรจุเป็นครู และเพิ่มมุมมองทัศนคติในการเป็นครูและการศึกษา ทำให้รู้ประวัติความเป้นมาของการศึกษาได้รู้หลายๆด้านเกี่ยวกับการศึกษา

2.การนำเทคโนโลยีบล็อกมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนนักศึกษาเห็นว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไร

   ตอบ  การนำเทคโนโลยีบล็อกมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนนั้นส่งผลดีคือ ตัวของนักศึกษาเองนั้นได้เรียนรู้ได้ด้วยตนเองไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม และสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากที่อาจารย์สอนด้วย แต่มีผลดีก็มีผลเสียคือ ตัวของนักศึกษาเองนั้นต้องระงับตัวเองให้ได้ไม่ไหวไปกับสิ่งต่างๆในอินเทอร์เน็ตจนไม่ได้ทำงาน ไม่ว่าจะเป็น Facebook Youtube และอื่นๆ

3.บอกความรู้สึกต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เว็บบล็อก

   ตอบ  รู้สึกดีตรงที่เมื่อเราไม่เข้าใจสามารถกลับไปดูกี่รอบก็ได้เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาได้ และสะดวกในการเรียนรู้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือสะดวกว่างเวลาไหนก็สามารถที่จะเรียนรู้ได้แล้วก็ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย ไม่จำเป็นต้องปริ๊นมาเข้าเล่ม หรืออะไรหลายๆอย่าง แต่สามารถพิมลงบล็อกได้เลยและสามารถนำมาดูตอนไหนก็ได้เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ

4.ถ้าประเมินอาจารย์ผู้สอนวิชานี้ เกรด A,B,C จะให้ระดับใด เหตุผล

   ตอบ  ประเมินอาจารย์ผู้สอนวิชานี้ ให้เกรด A เหตุผลเพราะ อาจารย์เสียสละเวลามาสอน แล้วเรียนแบบสบายๆ อาจารย์เข้าใจเด็กและความรู้ที่อาจารย์ให้มาถือว่านำไปใช้งานได้จริง

ประวัติส่วนตัว

๑. ข้อมูลส่วนตัว

        ๑. ชื่อ นายกิตตินันท์ พัฒนศรี

        ๒. เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๙ อายุ ๒๘ ปี ๑๑ เดือน

        ๓. ตำแหน่งหน้าที่ในปัจจุบัน ตำแหน่ง ครูผู้ช่วยโรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข

สถานที่ทางานศึกษา โรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข สังกัด สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ตั้งอยู่เลขที่  ๙๙     หมู่ที่  -      ถนน เทศบาล ๑๑   ตำบล/แขวง  นาโยงเหนือ  อำเภอ/เขต  นาโยง จังหวัด ตรังรหัสไปรษณีย์ ๙๒๑๗๐            โทรศัพท์ ๐๗๕-๒๙๙๐๓๓                         โทรสาร ๐๗๔-๒๙๙๐๓๔

๔. ที่อยู่ปัจจุบัน   เลขที่ ๔   ถนน ราชดำเนิน ตำบล/แขวง ในเมือง  อำเภอ/เขต เมือง        จังหวัด นครศรีธรรมราช              รหัสไปรษณีย์ ๘๐๐๐๐

        โทรศัพท์   -       โทรศัพท์เคลื่อนที่ ๐๘๐-๗๐๐๗๘๓๑

โทรสาร           -       e-mail  P_langton๒๙@hotmail.com

ใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพครู เลขที่ ๕๓๑๐๙๐๐๐๓๑๔๙๑๖ ออก ณ วันที่ ๑ เดือน ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

๒.ประวัติการศึกษา

ปีที่สำเร็จ การศึกษา	วุฒิการศึกษา	วิชาเอก	สถาบันการศึกษา
๒๕๕๕	ป.บัณฑิตวิชาชีพครู	วิชาชีพครู	วิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
๒๕๕๒	ปริญญาตรี (ศศ.บ.)	ประวัติศาสตร์	มหาวิทยาลัยทักษิณ
๒๕๔๗	มัธยมศึกษาตอนปลาย	ศิลป์ - สังคม	โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
๒๕๔๔	มัธยมศึกษาตอนต้น	-	โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
๒๕๔๑	ประถมศึกษา	-	โรงเรียนศรีธรรมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

๓. ประวัติการทำงาน

วัน/เดือน/ปี ที่เข้าปฏิบัติงาน	วัน/เดือน/ปี ที่ได้รับการบรรจุ	สถานที่ทำงาน/ หน่วยงาน	ตำแหน่ง	เอกสารอ้างอิง
๒๕๕๘	๑ ส.ค.๕๘	โรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข	ครู	คำสั่งโรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข ที่
๒๕๕๖	๑ ส.ค. ๕๖	โรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข	ครูผู้ช่วย	คำสั่งโรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข ที่๑๑๕/๒๕๕๖
๒๕๕๔	-	โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช	ครูอัตราจ้าง	-
๒๕๕๓	-	โรงเรียนกัลยาณีศรีรรมราช	นิสิตฝึกสอน	-

๔. งานที่ได้รับมอบหมาย/หน้าที่พิเศษ

นายกิตตินันท์  พัฒนศรี ตำแหน่งครูโรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข ปฏิบัติการสอนประจำกลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑๓ ยึดหลักการปฏิบัติตนแก่ศิษย์ โดยให้คำปรึกษาแก่นักเรียนโดยเท่าเทียมกันเมื่อนักเรียนมีปัญหาด้านการเรียนสามารถขอคำแนะนำได้ตลอดเวลา รับผิดชอบต่อการสอน สอนนักเรียนให้สามารถมีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานรายวิชาและจุดประสงค์รายวิชา โดยสรรหากระบวนการเรียนการสอนให้หลากหลายเพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้และมีความรู้ดี ทักษะเยี่ยม เปี่ยมด้วยคุณธรรม จริยธรรมที่พึงประสงค์ ใช้ความรักความเมตตาในการสอนเสมอ ยึดหลักความเท่าเทียมและความเสมอภาคของผู้เรียนทุกคน ติดต่อกับผู้ปกครองในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรียนจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และได้รับมอบหมายหน้าที่พิเศษตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าด้วยการบริหารสถานศึกษา พ.ศ.๒๕๕๒ หมวด ๑ หน้าที่และการบริหารงานของสถานศึกษา ดังนี้

๑. งานการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

นายกิตตินันท์  พัฒนศรี ตำแหน่ง ครูโรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข ปฏิบัติการสอนประจำกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑๓ โดยในภาคเรียนที่

๑ / ๒๕๕๘ ปฏิบัติหน้าที่การสอน ๓ รายวิชา รวม ๒๓ คาบ ดังนี้

ที่	รายวิชา	ห้อง	จำนวนคาบ/สัปดาห์
๑.	รหัสวิชา ส ๒๒๑๐๑ สังคมพื้นฐาน ๓	มัธยมศึกษาปีที่ ๒/๓ , ๒/๔ , ๒/๖	๙
๒.	รหัสวิชา ส ๒๓๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๕	มัธยมศึกษาปีที่ ๓/๑ – ๓/๖	๖
๓.	รหัสวิชา ส ๓๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ไทย ๑	มัธยมศึกษาปีที่ ๔/๑ – ๔/๕	๕
๔.	กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์	ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น	๑
๕.	ชุมนุมจิตอาสา	ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย	๑
๖.	กิจกรรมโฮมรูม/ประชุมระดับ	มัธยมศึกษาปีที่ ๒/๓	๑
รวม			๒๓

        มีหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน การส่งเสริมการเรียนรู้ พัฒนาผู้เรียน ปฏิบัติงานทางวิชาการของสถานศึกษา พัฒนาตนเองและวิชาชีพประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองบุคคลในชุมชน และสถานประกอบการเพื่อร่วมกันพัฒนาผู้เรียน การบริการสังคมด้านวิชาการและด้านวิชาชีพและปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติดังนี้คือ

๑) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน และส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลายโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๒) จัดอบรมสั่งสอน และจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่พึ่งประสงค์ ๓) ปฏิบัติงานวิชาการของสถานศึกษา ๔) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน  ๕) ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองและบุคคลในชุมชนและสถานประกอบการเพื่อร่วมกันพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ ๖) ทำนุบำรุง ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น ๗) ศึกษาวิเคราะห์วิจัย และประเมินพัฒนาการของผู้เรียนเพื่อนำมาพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ซึ่งมีข้อปฏิบัติตนดังต่อไปนี้

๑. มีจรรยาบรรณในการปฏิบัติงานและปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด

๒. มีคุณธรรม จริยธรรม สุจริต ยุติธรรม และจริงใจ

๓. มีทักษะและเทคนิคในการถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่ผู้เรียนอย่างเต็มกำลังและความสามารถ

๔. ไม่ดุด่า กล่าวคำหยาบคาย ข่มขู่ดูถูกหรือเหยียดหยามผู้เรียนทั้งต่อหน้า และ ลับหลัง

๕. ใช้ถ้อยคำและวาจาที่สุขภาพ เรียบร้อยแก่ผู้เรียนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย

๖. ไม่เลือกผู้เรียน เพราะจะทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้สึกที่ไม่ดี

๗. ตรวจเช็คอุปกรณ์การสอนก่อนสอนทุกครั้ง

๘. ไม่ควรให้ผู้เรียนเกิดความรู้สึกท้อแท้ หดหู่ใจ วิตกกังวล ขณะกำลังเรียนหรือเรียนจบแล้ว

๙. ไม่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของผู้เรียนขณะทำการสอน

๑๐. ไม่ฉกฉวยโอกาสพูดจาแทะโลมหรือเกี้ยวพาราสีผู้เรียน เพื่อหวังผลประโยชน์ตนเอง เกินอำนาจหน้าที่ในการสอนของครูที่ดีที่พึงมีต่อผู้เรียน

๑๑. ห้ามครูผู้ใดทำการล่วงเกินผู้เรียนขณะกำลังสอน หรือช่วยเกินขอบเขตของครูที่พึงกระทำ

๑๒. ห้ามครูสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เปิดวิทยุดังเกินไปขณะทำการสอน

๑๓. ครูผู้สอนไม่สมควรใช้โทรศัพท์โดยไม่จำเป็น ขณะสอน

๑๔. เป็นผู้ที่ตรงต่อเวลา รักษาเวลา มีกาลเทศะ มีความรับผิดชอบ ไม่โกหกและรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดควรกระทำ สิ่งใดไม่ควรกระทำบนพื้นฐานของความถูกต้องและศีลธรรมอันดีงาน

๑๕. ทำงานด้วยความรักงาน จะทำงานด้วยความสนุกและมีความสุขกับการทำงาน มีสมาธิในการ

ทำงานไม่เครียดและวิตกกังวลจนเกินไป

๑๖. ครูต้องรักศักดิ์ศรีและเกียรติของความเป็นครู

๑๗. ร่วมมือ ร่วมใจกันทำงานเพื่อสร้างภาพพจน์ที่ดีให้แก่ตนเองและสำนักงาน

๑๘. มีความรัก ความสามัคคี ไม่เห็นแก่ตัว ไม่คิดร้าย เบียดเบียน หรือเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น

๑๙. หลีกเลี่ยงอบายมุข ยาเสพติด การพนัน สิ่งไม่ดีทั้งปวง

๒๐. พยายามทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด รู้จักแก้ไข ปรับปรุง และ พัฒนาตนเองอยู่เสมอ

 ผลงาน

ประสบการณ์ทำงานที่นอกเหนือจากการสอน

๑. ผู้ช่วยงานสืบสานศิลปวัฒนธรรม มีหน้าที่ ศึกษา ค้นคว้า วิจัย และรวบรวมข้อมูลวัฒนธรรมในพื้นที่ อนุรักษ์ส่งเสริมพัฒนาและเผยแพร่วัฒนธรรมในพื้นที่ประสานงานและสนับสนุนดำเนินงานวัฒนธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้งภาครัฐและเอกชน ส่งเสริมการปฏิบัติงานทางวิชาการให้กับสภาวัฒนธรรม เป็นศูนย์เครือข่ายวิชาการด้านวัฒนธรรม

๒. ผู้ช่วยและเลขานุการงานส่งเสริมคุณภาพผู้เรียน มีหน้าที่ จัดและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่เข้มแข็งทั่วถึง จัดกิจกรรมส่งเสริมและตอบสนองความสามารถทางวิชาการแลความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน และตอบสนองกิจกรรมส่งเสริมความสามารถพิเศษและความถนัดของผู้เรียนให้เต็มตามศักยภาพ กิจกรรมส่งเสริมค่านิยมที่ดีงาม กิจกรรมส่งเสริมด้านศิลปะ ดนตรี/นาฏศิลป์และกีฬา/นันทนาการ กิจกรรมสืบสานและสร้างสรรค์วัฒนธรรม ประเพณีและภูมิปัญญาไทย กิจกรรมส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย

๓. ผู้ช่วยและเลขานุการงานส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน มีหน้าที่ จัดทำเอกสารชี้แจง เผยแพร่หลักการของประชาธิปไตยโรงเรียน จัดให้มีหลักฐานการจัดกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย ประสานกับครูของโรงเรียน/ฝ่ายต่างๆเพื่อจัดกิจกรรมคณะกรรมการนักเรียน ให้สอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สนับสนุนให้มีบรรยากาศของประชาธิปไตยในโรงเรียนอย่างเด่นชัด จัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการนักเรียนปีละ ๑ ครั้ง ร่วมกับคณะกรรมการสภานักเรียน เป็นที่ปรึกษาการประชุม ตลอดทั้งวางแผน/โครงการสำหรับปฏิบัติงานของคณะกรรมการสภานักเรียนประสานกับนักเรียนในการทำความเข้าใจในกิจการของโรงเรียน เพื่อความสามัคคี การเคารพนบนอบของนักเรียนต่อครู ส่งเสริม ให้คำปรึกษา แนะนำ  เกี่ยวกับการทำกิจกรรมของคณะกรรมการสภานักเรียนให้อยู่ในขอบข่ายที่เหมาะสม และไม่ขัดต่อระเบียบของโรงเรียน

๔. งานอื่นๆตามภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

ความประทับใจในวิชาชีพครู

ความประทับใจในวิชาชีพครูของข้าพเจ้ามีอยู่ด้วยกัน ๒ ส่วน คือ

๑.   ความประทับใจในตัวอาชีพ ข้าพเจ้าคิดว่า อาชีพครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติ มั่นคง  เป็นที่นับน่าถือตาของคนในสังคม นอกจากนั้นยังเป็นอาชีพที่แตกต่างจากอาชีพอื่น คือครูได้เจอนักเรียนในแต่ละรุ่นที่มีความแตกต่างกัน ทำให้เกินความท้าทายและความสนุกในการทำงาน เพราะการที่ได้อยู่ร่วมกับเด็กหรือเยาวชนที่ถือว่าเป็นผ้าขาวที่บริสุทธิ์นั้น แน่นอนว่าสิ่งที่เราได้รับกลับมาจากนักเรียน คือความรักและจริงใจ  ตรงจุดนี้คือสิ่งที่ประทับใจมาก

๒.  ความประทับใจในวิชาชีพ ข้าพเจ้าคิดเห็นว่า อาชีพครูนั้นเป็นวิชาชีพชั้นสูงที่ต้องปฏิบัติควบคู่ไปกับจิตวิญญาณในความเป็นครู สิ่งเหล่านี้ทำให้อาชีพครูแตกต่างจากอาชีพอื่น คือเราต้องบอกและเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า สิ่งใดก็ตามที่เราสอนนักเรียนนั้นเราต้องปฏิบัติและทำให้ได้ด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม หมออาจจะช่วยรักษาชีวิตคนป่วย แต่ครูคือผู้ที่สร้างชีวิตให้คนเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ  ความสุขของครูจึงอยู่ที่การได้เฝ้ามองนักเรียนที่ผ่านมือเราไปแต่ละคนแต่รุ่นเป็นผู้ที่มี ความดีติดตัว ความเก่งในวิชา และสองสิ่งนั้นจะนำความสุขมาสู่นักเรียน และนั่นก็คือความสุของครูเช่นกัน  

ความประทับใจที่มีต่ออาจารย์

        ชอบอาจารย์ที่อาจารย์เป็นคนตลก ร่าเริง เฮฮา สนุกสนานเล่นกับเด็กเป็นการเรียนที่มีความสุขมาก ชอบเห็นสีหน้าของคนอื่นเวลาเรียนกับอาจารย์ท่านนี้ ทุกคนอยากที่จะไปเรียน อยากที่จะเจออาจารย์ เพราะเรียนแล้วมีความสุข อาจารย์เป็นอาจารย์ที่ทำให้ดิฉันมีความสุขมากในห้องเรียนและนอกห้องเรียน รักและเคารพอาจารย์นะคะ

ทดสอบกลางภาคเรียน

1.การศึกษาไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ  การศึกษาไทยสมัยก่อน เป็นการศึกษาที่ไม่มีระบบ ไม่มีแบบแผน ไม่มีชั้นเรียนหรือโรงเรียน วัดเป็นแหล่งที่ให้ความรู้ มีพระภิกษุสงค์เป็นผู้สอนให้ความรู้แต่เพียงเพื่อนำไปประกอบอาชีพ ความรู้ที่ถ่ายทอดในสมัยนั้นไม่มีการจดบันทึกไว้ ใช้ความสามารถในการท่องจำของผู้เรียนมากกว่า

2.สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยาจัดการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ  แตกต่างกัน เพราะว่า สมัยกรุงศรีอยุธยาได้มีการติดต่อกับฝรั่งชาติตะวันตก และต่อมาได้มีการจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนาขึ้นมา แต่ในส่วนของสมัยสุโขทัยนั้นไม่มีการติดต่อฝรั่งชาติอื่นเลยและมีศูนย์กลางการทางการเรียนมีเพียงแค่วัดเท่านั้น

3.อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการจัดการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง
ตอบ   1.แนวคิดและวิทยาการต่างๆของชาวตะวันตกได้แผ่หลายมากยิ่งขึ้น
      2.การติดต่อกับต่างชาติมากยิ่งขึ้น
      3.ภัยคุกคามในด้านต่างๆจากประเทศมหาอำนาจ

4.การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ  การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นนั้นได้มีการเริ่มนำวิทยาการใหม่ๆเข้ามาใช้ อย่างเช่น การจัดพิมพ์ตำราเรียน ได้เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่การศึกษาของไทยสมัยปฏิรูปการศึกษา

5.แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่ออะไร เกิดขึ้นในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ  แบบเรียนเล่มของไทยชื่อ จินดามณี หนังสือจินดามณีนั้นเป็นหนังสือเก่าแก่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยพระโหราธิบดี กวีในสมัยพระนายณ์มหาราชซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่27(พ.ศ.2199-2231) ได้เรียบเรียงไว้เป็นหนังสือตำราเรียนไทย ฝรั่งเศสได้เข้ามาติดต่อค้าขายและได้เผยแพร่ศาสนาคริสต์ และได้ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ขึ้นและมีการประดิษฐ์ตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้นครั้งแรก สอนวิชาการยุโรปเกี่ยวกับ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส ต่อเรือ การก่อสร้าง ทำให้พระองค์เกรงกลัวว่าคนไทยจะหันไปสนใจเข้ารีตและนิยมฝรั่ง จึงทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดีแต่งหนังสือแบบเรียนภาษาไทยเป็นของตนเอง ชื่อ "จินดามณี" ใช้ตั้งเริ่มอ่านจนกระทั่งหัดเรียนรู้วรรณคดีและอักษรศาสตร์ไทยชั้นสูง จึงทำให้เกิดแบบเรียนเล่มแรกของไทยขึ้นมา

6.การจัดการศึกษาภาคบังคับมีลักษณะเป็นอย่างไร จงอธิบาย และให้เหตุผล
ตอบ  ภาคการศึกษาสำหรับทวยราษฎร์ ได้แก่ ประถมศึกษา เป็นการศึกษาภาคบังคับ มีความรู้ทั้งฝ่ายสามัญศึกษาและวิสามัญศึกษา บังคับเด็กที่มีอายุตั้งแต่7ปีบริบูรณ์ เข้าเรียนทุกคน จนกระทั่งอายุครบ14ปีหรือจนจบหลักสูตรประถมศึกษาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย มีจุดมุ่งหมายเพื่อรับผิดชอบชั่วดี นำวิชาไปประกอบอาชีพและการเป็นพลเมืองที่ดี

7.การศึกษาที่เรียกว่ามาติกาศึกษาเป็นอย่างไร จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ การศึกษามีศูนย์กลางคือวัด มาติกาศึกษามีด้วยกัน 8 มาติกา ดังนี้
             1.ตำบลที่เล่าเรียน คือ ตำบลของวัด
             2.โรงเรียน คือ ที่เรียนของวัด เช่น หอฉัน หอสวดมนต์ และวิหาร
             3.นักเรียนและครู มี 3 ประเภท คือ ภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
             4.เวลาเรียน คือ ตอนพระว่าง
             5.เครื่องเล่าเรียน คือ กระดานชนวน ดินสอพอง และปากกาไม้ไผ่
             6.วิชาหนังสือ คือ หนังสือเรียน
             7.วิชาเลข คือ เลขคณิตวิธีต่างๆ
             8.ข้อบังคับการเรียน คือ ระเบียบวินัย การลงโทษ

8.การศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ  รัชกาลที่ 5 เพราะว่าต้องการคนที่มีความรู้และความสามารถมาพัฒนาประเทศให้เท่าเทียมกับชาติตะวันตกในทุกๆด้าน

9.การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ   เห็นด้วย เพราะว่าในปัจจุบันนี้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการศึกษามากยิ่งขึ้น ทำให้การเรียนการสอนง่ายมากยิ่งขึ้น สามารถที่จะเรียนทางไกลได้และยังสามารถค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้เรียนเองว่าจะสามารถนำเอามาประยุกต์ใช้ในการเรียนได้มากน้อยแค่ไหน

10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาสู่ยุคสมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอะไรบ้าง
ตอบ  ยุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือ การเสริมสร้างการตระหนักถึงเรื่องอาเซียนเพื่อพัฒนาศักภาพของ นักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลาการทางการศึกษา เพื่อเพิ่มคุณภาพการศึกษา การจัดมาตรฐานการศึกษา การศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาวิชาชีพครู จัดการศึกษาเพื่อสนองความต้องการของตลาดแรงงานและสภาพเศรษฐกิจของยุคโลกาภิวัฒน์ เพื่อพัฒนาการศึกษา สนับสนุนการศึกษาเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อ

1. ชื่อเรื่อง ผมเกลียดโรงเรียน ข้อสรุปประเด็นที่ได้ บุคคลที่ประสบความสำเร็จล้วนไม่มีหยุดการเรียนรู้ แต่ส่วนใหญ่อาจารย์ไม่เคยสอนให้นักเรียนคิดนอกกรอบหนังสือ ทำให้เด็กคิดนอกรอบไม่เป็น ต้องมีแต่การจำมากกว่าการคิดด้วยตนเอง แท้จริงแล้ว การที่จะเป็นคนที่จะสำเร็จได้นั้น ไม่จำเป็นต้องยึดกับใบปริญญาที่มีแต่การจำที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหา นอกกรอบจากปัญหาที่เผชิญรอบตัว ข้อคิดที่ได้ เราควรวางแผนกับการเรียนให้อย่างรอบคอบและนำไปปฏิบัติได้จริงและประสบสำเร็จด้วย 2. ชื่อเรื่อง สตีฟ จ็อบส์ ข้อสรุปประเด็นที่ได้ คนเรานั้นต้องเชื่อมั่นและศรัทธาในบางสิ่งบางอย่างอย่างแน่วแน่ เนื่องจากการเกิดจากความเชื่อที่เรามีต่อจุดแต่ละจุดนั้นและในที่สุดมันจะเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน และมันจะให้ความมั่นใจทำตามใจความต้องการ และสิ่งนั้นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ข้อคิดที่ได้ พรสวรรค์และพรแสวงล้วนแต่มีในตัวของเราทุกคน อยู่ที่ว่าคุณจะไขว่คว้ามันได้มากน้อยแค่ไหน 3. ชื่อเรื่อง บิล เกตต์ ข้อสรุปประเด็นที่ได้ ข้อที่1 ชีวิตของคนเรานั้นไม่เท่าเทียมเท่าไร ข้อที่2 ความสำเร็จที่เกิดจากตัวคุณเอง ข้อที่3 อย่าหวังว่าเรียนจบแล้วจะได้ทำงานเงินเดือนเยอะ ข้อที่4 การทำงานน่าเบื่อสุด ข้อที่5 การคิดคำสแลงใหม่ไม่ใช่ความผิด ข้อที่6 จงเรียนรู้ความผิดพลาด ข้อที่7 จงช่วยกันแบ่งเบาภาระแก่ครอบครัว ข้อที่8 ชีวิตเป็นการลองผิดหรือลองถูก ข้อที่9 ไม่มีวันหยุดให้เหมือนเรียนหนังสือ ข้อที่10 จงเชื่อสิ่งที่เป็นจริง ข้อที่11 มีมิตรภาพกับความเนิร์ด ข้อคิดที่ได้ ความสำเร็จจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อรู้จักแก้ปัญหามาจากจุดเล็กๆน้อยๆและจุดบกพร่องของมัน 4. ชื่อเรื่อง อิชิตัน ข้อสรุปประเด็นที่ได้ ผมว่าการที่ประสบความสำเร็จได้นั้นมีความเชื่อว่าต้องลำบากก่อนถึงจะสบาย โดยเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะปฏิบัติตัวได้ ไม่ว่าใครก็อยากที่จะมีอนาคตที่สดใสและดี ควรมีวิธีคิดที่เป็นบวก นำข้อผิดพลาดต่างๆมาเป็นบทเรียนในการดำรงชีวิต เราจะได้ไม่ทำผิดในเรื่องนั้นอีก ข้อคิดที่ได้ การล้มหรือพ่ายแพ้ต่อสิ่งใดนั้น เมื่อล้มแล้วก็ควรลุกขึ้นมาต่อสู้กับมันต่อไป

วิดีโอการศึกษา

1. ชื่อเรื่อง   ผมเกลียดโรงเรียน

ข้อสรุปประเด็นที่ได้   

            บุคคลที่ประสบความสำเร็จล้วนไม่มีหยุดการเรียนรู้ แต่ส่วนใหญ่อาจารย์ไม่เคยสอนให้นักเรียนคิดนอกกรอบหนังสือ ทำให้เด็กคิดนอกรอบไม่เป็น ต้องมีแต่การจำมากกว่าการคิดด้วยตนเอง แท้จริงแล้ว การที่จะเป็นคนที่จะสำเร็จได้นั้น ไม่จำเป็นต้องยึดกับใบปริญญาที่มีแต่การจำที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหา

นอกกรอบจากปัญหาที่เผชิญรอบตัว

ข้อคิดที่ได้   

            เราควรวางแผนกับการเรียนให้อย่างรอบคอบและนำไปปฏิบัติได้จริงและประสบสำเร็จด้วย

2. ชื่อเรื่อง   สตีฟ จ็อบส์

ข้อสรุปประเด็นที่ได้   

            คนเรานั้นต้องเชื่อมั่นและศรัทธาในบางสิ่งบางอย่างอย่างแน่วแน่ เนื่องจากการเกิดจากความเชื่อที่เรามีต่อจุดแต่ละจุดนั้นและในที่สุดมันจะเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน และมันจะให้ความมั่นใจทำตามใจความต้องการ และสิ่งนั้นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน

ข้อคิดที่ได้   

            พรสวรรค์และพรแสวงล้วนแต่มีในตัวของเราทุกคน อยู่ที่ว่าคุณจะไขว่คว้ามันได้มากน้อยแค่ไหน

3. ชื่อเรื่อง  บิล เกตต์

ข้อสรุปประเด็นที่ได้ 

            ข้อที่1 ชีวิตของคนเรานั้นไม่เท่าเทียมเท่าไร 

            ข้อที่2 ความสำเร็จที่เกิดจากตัวคุณเอง   

            ข้อที่3 อย่าหวังว่าเรียนจบแล้วจะได้ทำงานเงินเดือนเยอะ    

            ข้อที่4 การทำงานน่าเบื่อสุด    

            ข้อที่5 การคิดคำสแลงใหม่ไม่ใช่ความผิด   

            ข้อที่6 จงเรียนรู้ความผิดพลาด    

            ข้อที่7 จงช่วยกันแบ่งเบาภาระแก่ครอบครัว    

            ข้อที่8 ชีวิตเป็นการลองผิดหรือลองถูก  

            ข้อที่9 ไม่มีวันหยุดให้เหมือนเรียนหนังสือ    

            ข้อที่10 จงเชื่อสิ่งที่เป็นจริง  

            ข้อที่11 มีมิตรภาพกับความเนิร์ด

ข้อคิดที่ได้

    ความสำเร็จจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อรู้จักแก้ปัญหามาจากจุดเล็กๆน้อยๆและจุดบกพร่องของมัน

4. ชื่อเรื่อง   อิชิตัน

ข้อสรุปประเด็นที่ได้  
    ผมว่าการที่ประสบความสำเร็จได้นั้นมีความเชื่อว่าต้องลำบากก่อนถึงจะสบาย โดยเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะปฏิบัติตัวได้ ไม่ว่าใครก็อยากที่จะมีอนาคตที่สดใสและดี ควรมีวิธีคิดที่เป็นบวก นำข้อผิดพลาดต่างๆมาเป็นบทเรียนในการดำรงชีวิต เราจะได้ไม่ทำผิดในเรื่องนั้นอีก

ข้อคิดที่ได้  

    การล้มหรือพ่ายแพ้ต่อสิ่งใดนั้น เมื่อล้มแล้วก็ควรลุกขึ้นมาต่อสู้กับมันต่อไป